Get Adobe Flash player

- ดูแลพรมด้วยตัวเอง

ในการดูแลรักษาพรมที่ดีนั้นจะต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อมของห้องที่มีการตกแต่ง ด้วยพรม ซึ่งจะต้องเป็นบริเวณที่ไม่มีฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกง่าย ไม่เป็นห้องที่อยู่ติดกับถนนหรือบริเวณห้องจะต้องไม่เสี่ยงต่อการโดนฝนซัด สาด เป็นต้น เพราะสิ่งเหล่านี้หากไม่มีการป้องกันแล้วอาจทำให้การตกแต่งบ้านด้วยพรมของ คุณมีความยุ่งยากและไม่สามารถทำความสะอาดได้ง่ายนัก อันเป็นการสะสมฝุ่นละอองที่พรมภายในบ้านเกิดเชื้อโรคและความไม่สวยงามตามมา เป็นปัญหาในภายหลัง รูปแบบของพรมที่ไม่แนะนำให้คุณเลือกซื้อมาใช้ตกแต่งบ้าน คือ พรมที่มีสีเข้ม ไม่มีลวดลาย หรือพรมที่มีสีอ่อนมากๆ เช่น พรมสีดำ พรมสีน้ำตาล พรมสีน้ำเงินกรมท่า พรมสีขาว พรมสีครีม ฯลฯ เพราะพรมในลักษณะนี้จะเป็นสีที่สามารถเปื้อนง่ายและเห็นร่องรอยการเกาะฝุ่น ได้ชัดเจน ดูไม่สะอาดตา นอกจากนี้การเลือกสีสันของพรมที่ดีจะช่วยให้ความรู้สึกว่าบริเวณห้องกว้าง หรือแคบได้เช่นกัน ซึ่งหากเลือกใช้พรมโทนสีอ่อนจะทำให้ห้องมีบริเวณกว้างมากขึ้น เหมาะจะใช้สำหรับห้องที่มีขนาดเล็กเพื่อสร้างมิติให้มีพื้นที่มากขึ้น หากเลือกใช้พรมโทนสีเข้ม จะเป็นการเน้นให้เห็นขนาดของห้องที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ไม่แนะนำให้ใช้พรมโทนสีเข้มกับห้องที่มีรูปทรงซับซ้อนหรือห้องที่มีพื้นที่ จำกัด เพราะจะยิ่งทำให้เห็นว่ามีบริเวณแคบ สำหรับการดูแลรักษาพรมนอกจากการหมั่นทำความสะอาดด้วยการดูดฝุ่นอยู่เป็น ประจำด้วยตัวคุณเองแล้ว อย่างน้อยปีละครั้งคุณจะต้องขอรับบริการจากช่างมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญ ในการทำความสะอาดพรมปูพื้นตกแต่งบ้านเข้ามาทำความสะอาดพรมของคุณด้วย เพราะการทำความสะอาดด้วยช่างมืออาชีพนี้จะช่วยยืดอายุของพรมตกแต่งบ้านออกไป ให้มีความยืนยาวในการใช้งานได้มากยิ่งขึ้น พรมที่ดีนั้นควรมีพื้นผิวที่เรียบและมีลวดลายสวยงามในตัวและที่สำคัญจะต้อง ผลิตจากวัสดุที่ไม่กักเก็บฝุ่นถึงจะเป็นพรมที่มีคุณภาพมากที่สุดสำหรับบ้าน ของคุณ



- ทำความสะอาดพรมด้วยตัวเอง

1. ดูดฝุ่นบนพรมออกให้หมดจดก่อน จากนั้น ผสมน้ำอุ่น 1 แกลลอนกับน้ำยาล้างจาน ¼ ถ้วย แต่ถ้าพรมของคุณมีคราบราอยู่ด้วย ให้เติมน้ำส้มสายชูกลั่นลงไปด้วย 1 ถ้วย แล้วคนส่วนผสมให้เข้ากัน

2. จุ่มแปรงลงในส่วนผสมจนชุ่ม แล้วใช้แปรงถูบนพรมในลักษณะวนเป็นวงกลมทีละส่วน แล้วใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นบิดหมาดๆ ซับลงบนบริเวณที่คุณเพิ่งใช้แปรงขัดจนกระทั่งสะอาด

3. ทำซ้ำแบบนี้ไปจนทั่วบริเวณ

4. ใช้พัดลมเป่าพรมที่เพิ่งทำความสะอาด เพื่อให้แห้งเร็วขึ้น

5. ผสมเบกกิ้งโซดาและแป้งข้าวโพดในปริมาณที่เท่ากัน แล้วโรยให้ทั่วพรมที่เพิ่งทำความสะอาด ปล่อยทิ้งไว้ 30 นาที ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดออก ส่วนผสมนี้สามารถทำซ้ำได้บ่อยครั้ง โดยไม่ต้องซักพรมเพื่อช่วยดับกลิ่น

- ให้ร้านเราทำความสะอาดให้ หรือ ทำเองก็ได้ครับ

เรามีเครื่องมือครบในการรักษาพรมของท่านให้สะอาด

1.ดูดฝุ่นบนพรมในห้องให้มดก่อน


2.ลงน้ำยาทำความสะอาดพรม 3M


3.ใช้แผ่นขัดพรมขัดทั่วห้อง


4.ทิ้งไว้ 30 นาที เสร็จแล้วครับ ^_^